อัญเชิญพระประทานเข้าบ้าน ควรเตรียมสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเอาไว้ให้เรียบร้อย ถ้ามีพื้นที่มากพอจะกั้นเป็นห้องพระ ตั้งโต๊ะหมู่บูชาแบบเป็นทางการก็ได้ แต่สำหรับใครที่มีพื้นที่จำกัดแบบคอนโด ก็ทำเป็นหิ้งพระหรือเลือกโต๊ะสูงๆ ก็โอเคอยู่ โดยเราแนะนำให้ผู้ที่อาวุโสสุดถือพระพุทธรูปเดินเข้าบ้านก่อนเป็นคนแรก แล้วนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานยังที่ที่ได้เตรียมเอาไว้ ต่อจากนั้นคนในครอบครัวนำเครื่องสักการะ ธูป เทียน ดอกไม้ อาหาร น้ำสะอาด เพื่อไหว้บูชาและอธิษฐานให้บ้านที่อยู่นั้นมีแต่ความร่มเย็น มีแต่ความสุขความเจริญ 3. พิธีเลี้ยงพระ โดยการนิมนต์พระควรนิมนต์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ – 1 เดือน เผื่อท่านติดกิจธุระอื่นๆ และจำนวนพระที่นิมนต์ตามประเพณีนิยมจะเป็นเลขคี่ ตั้งแต่ 3, 5, 7 หรือ 9 รูป ซึ่งถ้าพื้นที่ในการทำพิธีมีเหลือเฟือก็แนะนำให้นิมนต์ 9 รูปไปเลยจะดูเหมาะสมสุด เรื่องการถวายภัตหารถ้าเป็นช่วงเช้าควรเริ่มประมาณ 7. 30 น. อันนี้ส่วนตัวเราว่าดูจะเช้าไปหน่อยอาจเตรียมอะไรๆ ไม่ทัน แต่ถ้าถวายเพลน่าจะกำลังดีเพราะเริ่มประมาณ 10.
30 น. หรือหากเลือกถวายภัตตาหารเพลก็ควรเริ่มพิธีเวลาประมาณ 10.
ลูกโลก เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้า ทั้งในเรื่องหน้าที่การงานและกิจการต่าง ๆ ซึ่งสามารถตั้งจิตอธิษฐานของพรความสำเร็จจากลูกโลกได้ โดยการใช้มือขวาหมุนลูกโลกให้เวียนขวาช้า ๆ 3 รอบหลังขอพร จุดที่ควรวาง คือ บนโต๊ะทำงานที่บ้าน หรือมุม ตู้ที่เก็บเอกสารเกี่ยวกับกิจการต่างๆ 3. อัญมณีสีเขียว เป็นสิ่งที่สื่อถึงพลังในการปกป้อง ขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลต่าง ๆ ให้ไกลห่างจากตัวบ้าน อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนพลังงานลบให้เป็นพลังงานบวกได้อีกด้วย จุดที่ควรจัดตั้งไว้ คือ บริเวณใกล้ประตูทางเข้าบ้าน 4. เครื่องแขวนหรือโมบายต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างพลังบวกให้กับบ้านและขจัดพลังลบต่าง ๆ ให้เบาบางหรือจางหายไป ด้วยเสียงที่ดังก้องกังวานนั้น ประดุจดังเสียงจากสวรรค์ที่ช่วยดับร้อนให้กลายเป็นร่มเย็นได้ 5. หากถูกใจอย่าลืม กดแชร์! 00 น.
สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านของบ้านหลังที่จะย้ายเข้า 2. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าบ้านหลังที่จะย้ายเข้า 3. หนังสือมอบหมายจากเจ้าบ้านกรณีที่ผู้แจ้งย้ายไม่ใช่เจ้าบ้าน 4. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับมอบหมายกรณีได้รับมอบหมาย 5. ใบแจ้งย้ายที่อยู่ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 เมื่อนายทะเบียนตรวจสอบหลักฐานถูกต้องแล้วจึงจะเพิ่มชื่อลงในทะเบียนบ้านและในสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน และจะมอบสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านพร้อมหลักฐานการแจ้งคืนให้กับผู้แจ้ง การแจ้งย้ายออก เมื่อมีผู้อยู่ในบ้านย้ายที่อยู่ออกไปจากบ้าน กฎหมายกำหนดให้บุคคลที่เป็นเจ้าบ้านมีหน้าที่ต้องแจ้งการย้ายออกของบุคคลดังกล่าวต่อนายทะเบียนภายใน 15 วันนับแต่วันที่ผู้อยู่ในบ้านย้ายออก หากไม่แจ้งภายในกำหนดระยะเวลามีโทษปรับไม่เกิน 1, 000 บาท เอกสารที่ต้องใช้ในการแจ้ง มีดังนี้ 1. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านของบ้านหลังที่จะย้ายออก 2. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าบ้านหลังที่จะย้ายออก 3. หนังสือมอบหมายจากเจ้าบ้าน กรณีผู้แจ้งย้ายไม่ใช่เจ้าบ้าน 4.
ในชนบทบางแห่งเชื่อว่าตามเสาบ้านนั้นมีผีบ้านผีเรือนอาศัยอยู่ จึงมักจัดกระทงใบตองที่ประกอบไปด้วยอาหารคาวหวาน เหล้า บุหรี่ จากนั้นทำพิธีเซ่นผีบ้านผีเรือนที่ว่านี้ให้ออกมากินอาหาร แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยเห็นพิธีแบบนี้แล้วครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพิธีทางพุทธเสียมากกว่า การเตรียมตัวเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่นั้น จะว่าไปก็แล้วแต่ความเชื่อนั่นแหละครับ บางที่ไม่ต้องทำพิธีอะไรมากมาย แค่คิดดีทำดี ก็สามารถทำให้เราอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขได้ ดังนั้นจงเลือกทำตามความเชื่อของแต่ละคนเถิดครับ ขอให้มีความสุขในบ้านหลังใหม่ สวัสดีครับ ติดตามเกร็ดความรู้ใหม่ๆ เรื่องน่ารู้รอบโลก บน Facebook คลิกที่นี่!! ปลายเดือนก. -ต้นๆเดือนต.
บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่จะแจ้งย้ายปลายทาง 3. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าบ้านหลังที่จะย้ายเข้า 4. หนังสือยินยอมให้ย้ายเข้าของเจ้าบ้านหลังที่จะย้ายเข้า กรณีที่เจ้าบ้านไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเองได้ 5. ค่าธรรมเนียมการย้ายที่อยู่ปลายทางอัตโนมัติฉบับละ 10 บาท กรณีเจ้าบ้านไม่ยอมแจ้งย้ายให้หรือไม่มีทะเบียนบ้านใช้แจ้งย้าย ผู้อยู่ในบ้านเมื่อประสงค์จะย้ายที่อยู่ออกจากบ้าน แต่เจ้าบ้านไม่ยอมไปดำเนินการแจ้งย้ายให้ หรือไม่ยอมมอบสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านให้ไปแจ้งย้ายออก หรือไม่มีสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านเนื่องจากสูญหาย สามารถแก้ไขปัญหาโดยดำเนินการได้ดังนี้ 1. กรณีเจ้าบ้านไม่ยอมไปดำเนินการแจ้งย้าย โดยมีเจตนาไม่ให้ผู้แจ้งย้ายที่อยู่ย้ายชื่อออกไปหรือเก็บสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านไว้ไม่ยอมให้นำไปแจ้งย้ายออก เจ้าบ้านย่อมมีความผิดตามกฎหมาย ให้แจ้งต่อนายทะเบียนให้ดำเนินการเรียกเจ้าบ้านมาปฏิบัติตามกฎหมาย และถ้าเจ้าบ้านยังไม่มาดำเนินการต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1, 000 บาท 2. กรณีสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านสูญหาย ให้เจ้าบ้านยื่นคำร้องขอให้นายทะเบียนจัดทำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านขึ้นใหม่แทนฉบับที่สูญหายและนำไปดำเนินการแจ้งย้ายออกต่อไป 3.
กรณีสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านไม่อยู่เนื่องจากบุคคลในบ้านนำไปใช้ที่อื่นและผู้แจ้งย้ายไม่อาจรอได้ ให้ผู้แจ้งย้ายที่อยู่ไปดำเนินการแจ้งย้ายที่อยู่ปลายทาง ณ สำนักทะเบียนที่จะย้ายเข้าได้ โดยไม่ต้องรอดำเนินการแจ้งย้ายออกจากที่เดิม โดยเสียค่าธรรมเนียมการแจ้งย้ายที่อยู่ปลายทางอัตโนมัติฉบับละ 10 บาท กรณีแจ้งย้ายออกแล้วเปลี่ยนใจ เมื่อมีการแจ้งย้ายที่อยู่ออกไปจากบ้านใดแล้ว แต่ผู้ย้ายที่อยู่เกิดเปลี่ยนใจ ผู้ย้ายที่อยู่สามารถดำเนินการให้ถูกต้องได้ดังนี้ 1. กรณีเปลี่ยนใจไม่ประสงค์จะย้ายเข้าตามที่ได้ระบุไว้ในใบแจ้งการย้ายที่อยู่ ผู้ย้ายที่อยู่สามารถมอบใบแจ้งการย้ายที่อยู่ให้เจ้าบ้านไปแจ้งต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่ผู้ย้ายที่อยู่เข้าไปอยู่จริงโดยไม่ต้องกลับไปแก้ไขยังสำนักทะเบียนที่ออกใบแจ้งการย้ายที่อยู่ ในการนี้นายทะเบียนแห่งท้องที่ที่ผู้แจ้งย้ายเข้าไปอยู่ใหม่จะดำเนินการแก้ไขรายการในใบแจ้งการย้ายที่อยู่ให้ตรงตามความเป็นจริงและรับแจ้งย้ายเข้าต่อไป 2.
1 อีกไม่นานแล้ว - Clear พงศ์ อ พาร์ ท เม้น ท์ รัช ดา 13 The good doctor ภาค1 หน้าแรก » บ้านและสวน » พิธีขึ้นบ้านใหม่ ย้ายเข้าบ้านใหม่วันแรกต้องทำอย่างไร เตรียมอะไรบ้าง การเตรียมตัวเพื่อเข้าหรือขึ้นบ้านใหม่นั้นเป็นความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่าจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข และเป็นการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ความเชื่อเช่นนี้ได้ตกทอดมาถึงยุคปัจจุบันเช่นกันเพียงแต่พิธีการต่างๆ นั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือตัดทอนลงไปบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีหรือพิธีการเข้าหรือขึ้นบ้านใหม่นั้นมาบอกกล่าวกันค่ะ 1. เริ่มจากการจัดเตรียมข้าวของต่างๆ ได้แก่ พระพุทธรูป ดอกไม้ธูปเทียน ไม้มงคลต่างๆ รวมไปถึงพวกผลไม้สำหรับไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เช่น กล้วย มะพร้าว สาลี่ ทับทิม ส้ม หรืออาจจะมีขนมไทยอย่างทองหยิบ ทองหยอด ทองเอก หรือขนมอื่นๆ ที่มีชื่อเป็นมงคล ด้วยความเชื่อที่ว่า "ทอง" หมายถึง ความร่ำรวย ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจะสุขสบายและอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข 2. เมื่อจัดเตรียมข้าวของต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ให้หาคนที่มีอาวุโสสูงสุด(ผู้ชาย) ทำการถือพระพุทธรูป เดินเข้าบ้านก่อนทั้งนี้มีความเชื่อว่า ให้พระนำหน้าจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข จากนั้นให้ผู้อยู่อาศัยเดินตามผู้นำ แล้วให้นำพระพุทธรูปไปประดิษฐานยังห้องพระที่จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ (ควรจัดเตรียมไว้ก่อน โดยห้องพระนั้นควรอยู่ทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ) 3.